รีวิวหนัง: Valerian And The City Of Thousand Planets

 


รีวิวหนัง: Valerian And The City Of Thousand Planets


หากคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์อวกาศ หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับภาพของโคโลนีในอวกาศที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เคลื่อนไหวไปมา ภาพโรงเตี๊ยมหรือซ่องโจรที่เต็มไปด้วยเอเลี่ยนชั่วร้าย ถ้าคุณชอบบรรยากาศของภาพนี้ คุณจะชอบวาเลอเรี่ยนเป็นพิเศษเพราะภาพยนตร์เรื่อง "Interstellar" ขยายบรรยากาศเหล่านั้นเป็นเรื่องราวตลอด 2 ชั่วโมง 20 นาที


หนังดัดแปลงมาจากมังงะเก่าที่เขียนในปี 1967 ยืดเยื้อถึง 43 ปี และจบลงในปี 2010 ฉบับหนังสือการ์ตูนมีชื่อว่า "Valerian and Laureline" และเป็นปฏิบัติการโดยสายลับ สหพันธ์โลก. ด้วยจินตนาการที่สดใสและขี้เล่นของ Jean-Claude Mezier ผู้สร้างนิทานวาเลอเรี่ยน การ์ตูนเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์มหากาพย์อย่าง Star Wars และตัว Luke Besan เองต้องการดัดแปลงการ์ตูนเรื่องนี้ให้เป็นภาพยนตร์ แต่เนื่องจากเทคโนโลยีที่จำกัดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ลุคจึงตัดสินใจใช้ตอนจาก "Valerian and Valerian" แทน "The Fifth Element" (1997) เห็นนาวิกโยธิน รอนยังเป็นสัญญาณว่าเทคโนโลยีด้านภาพมาถึงแล้ว ลุคจะสามารถสร้างภาพของมนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์ต่างๆ ได้ และโครงการภาพยนตร์วาเลอเรี่ยนก็กลับมาอีกครั้งด้วยความนิยมในตัวของลุค เบสซง ในวงการนี้มากว่า 30 ปี เขาได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจมากมาย โดยเฉพาะ "The Fifth Element" ลุคแสดงวิสัยทัศน์ในภาพยนตร์อวกาศและกลายเป็นหัวใจของภาพยนตร์ สำหรับหลายๆ คน เมื่อลุคประกาศว่าเขาจะกลับมาสร้างภาพยนตร์อวกาศอีกครั้ง ได้รับการสนับสนุนมากมาย และทุนสร้างก็พุ่งสูงถึง 220 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ใช้ทุนสร้างสูงเช่นนี้ในประวัติศาสตร์นอกฮอลลีวูด และสร้างภาพตามจินตนาการของ Luke Beson ถึงกับซื้อบริษัท CG ที่สำคัญที่สุดในโลกถึงสามแห่ง ได้แก่ WETA ของ Peter Jackson, ILM ของ George Lucas และ Rodeo FX พวกเขายังเคยทำงานใน Gods of Egypt และ Warcraft The Making of Contest


หนังเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอาณานิคมจักรวาล "อัลฟ่า" ที่เกิดจากสถานีอวกาศของโลกมนุษย์ จากสถานีอวกาศของประเทศต่างๆ บนโลก พวกเขาเริ่มเชื่อมต่อและเริ่มรับการเชื่อมต่อจากดาวเคราะห์ดวงอื่น จนกระทั่ง 400 ปีต่อมา สถานีอวกาศได้ขยายออกไปในวงกว้าง อัลฟ่าซึ่งมีเอเลี่ยนกว่า 5,000 สายพันธุ์และประชากร 9 ล้านคนเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ น่าสนุกน่าดู แต่อยู่บนสมมติฐานว่าอาจเกิดขึ้นจริงในอนาคต ภาพยนตร์เรื่องนี้สลับไปมาระหว่างคู่หูของ Valerian และ Lorilyn ตามรูปแบบของหนังแอคชั่นที่ตัวละครหลักต้องแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงทักษะของทั้งสองฝ่ายและรูปลักษณ์ที่กล้าหาญของทั้งคู่ในตลาดใหญ่เป็นฉากแอคชั่นที่ยาวและน่าสนใจมาก แล้วตลาดใหญ่ล่ะ? อีกหนึ่งจินตนาการที่ต้องยกนิ้วให้ว่า "คุณมีความคิดที่แยบยล" ขอไม่เล่ารายละเอียดนะครับ ไปดูด้วยตัวคุณเอง จนกว่าพันธมิตรอัลฟ่าจะทำหน้าที่เป็นไกด์ พาผู้ชมผจญภัยผ่านซอกหลืบของอัลฟ่าด้วยเนื้อเรื่องที่เบาสมองและปริศนาแสนสนุก มีมุมลึกลับของอัลฟ่าที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเท่าไหร่ก็ไม่เคยออกมา หากไม่กำจัดอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าจะเป็นอันตรายต่อทุกชีวิตในอัลฟ่าในอนาคตความสนุกมากมายของภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากจินตนาการอันบรรเจิดของการเล่าเรื่องซึ่งสร้างชีวิตขึ้นมาผ่านวิสัยทัศน์ของลุค เบสซง เช่นเดียวกับใน The Fifth Element ประทับใจใช้ได้เลยหนังมีอารมณ์ขันเยอะ ความว่องไวของตัวละครหลัก นางเอกน่ารัก น่าหลงใหล และที่สำคัญรอบนี้เงินเยอะขึ้น บวกกับวิวัฒนาการของลุคซีจี เมื่อ 20 ปีก่อนทำไม่ได้ ครั้งนี้จึงเต็มที่ ภาพยนตร์เต็มไปด้วยเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดนับไม่ถ้วนมอนสเตอร์ที่น่ากลัวและน่ารักเรือที่หลากหลายอาวุธแปลกๆมากมายและการออกแบบเครื่องแต่งกายที่ยอดเยี่ยมจริงๆเรียกได้ว่าทุกนาทีของหนังยังคงลุ้นระทึกละสายตาจากกันไม่ได้เลยและตอกย้ำความประทับใจด้วยฉากร้องเพลงโอเปร่าของThe Five Element ที่หลายๆ คนประทับใจลุคจึงเพิ่มฉากร้องเพลงในเรื่องนี้เข้าไปด้วยและครั้งนี้ริฮานน่ารับหน้าที่แสดงเดี่ยว 2 นาที ต้องย้ำว่าเธอทำได้ดีมาก สมศักดิ์ศรีซุปตาร์ในยุคนี้จริงๆ



แต่ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าโทนของหนังเป็นแนวไซไฟ คอมเมดี้ ตั้งแต่ต้นตัวอย่างหนังน่าจะเห็นความสดใส สีสัน และอารมณ์ขัน ความโรแมนติกของแซมไม่ได้เข้มข้นและจริงจังเท่า"สตาร์ Wars" หรือ "Star Trek" ขมขื่น อย่าขายฉากที่ยานอวกาศไล่ล่ากัน แต่มันใกล้เคียงกับ Guardians of the Galaxy Vol. พ่อแม่จูงลูกไปดูอย่างปลอดภัยไม่มีพิษมีภัยอย่างแน่นอน สรุปได้ว่าเป็นหนังที่สนุกงาน CG ยอดเยี่ยม มันมาจากจินตนาการขั้นสูงที่ไม่เหมือนใครของภาพยนตร์อวกาศก่อนหน้านี้ คุณไม่ควรพลาด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวหนัง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้