รีวิวหนัง Mask Girl



มารู้จักกับหนังเรื่องนี้กัน


รีวิวหนัง Mask Girl เนื้อเรื่องของหญิงสาว คิมโมมี ใฝ่ฝันที่จะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง จากนั้นเธอก็ฝึกฝนทักษะที่เธอชอบตั้งแต่เด็ก น่าเสียดายที่เธอไม่ได้มีใบหน้าที่สวยงาม เลยต้องสวมหน้ากากมาจุติเป็นสาวนิรนาม ฉายา “สาวหน้ากาก” เพื่อสร้างความบันเทิงให้เหล่าตัณหาในโลกออนไลน์ แต่โชคชะตาเล่นตลกกับเธอซึ่งนำไปสู่โศกนาฏกรรมนองเลือด ดูจากหน้าหนังตอนแรกเรารู้สึกว่าซีรี่ย์เรื่องนี้อารมณ์คล้าย ๆ The Naked Director (2019) แต่เอาเข้าจริงถ้าลองดูให้จบจะรู้ว่ามันต่างกันสิ้นเชิง เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ยังคงตอกย้ำว่า soft power ที่ดีต้องเริ่มจากรากฐานของวรรณกรรม ไม่ว่าจะเป็น นิยาย การ์ตูน เว็บคอมมิค เพราะมันเป็นแฟชั่นมาก ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการผลิตเหล่านี้ไม่สูงเท่าภาพยนตร์ เมื่อสิ่งเหล่านี้แข็งแกร่งก็เหมือนงานพรีโปรดักชันที่ดี ถ้าเอาไปทำหนังหรือซีรีย์ที่ต้องใช้ทุนสูง จะเห็น Business Model หรือกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ผู้กำกับ Kim Young-hoon เป็นชื่อที่ค่อนข้างใหม่สำหรับแฟนละคร และแม้แต่ผู้ที่ติดตามผลงานการผลิตของเกาหลีใต้เอง


เท่าที่ทราบเขามีผลงานการกำกับเพียง 2 เรื่อง คือภาพยนตร์เรื่อง The Beast Clutching the Straw (2020) ซึ่งอาศัยต้นทางของ Content Culture พี่ใหญ่อย่างญี่ปุ่น การดัดแปลงนิยายอาชญากรรมหลายตัวละครของเคสุเกะ โซเนะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา จะเห็นได้ว่าลายมือของนักเล่าเรื่องก็เป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นผู้พัฒนาเนื้อหาในค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง CJ มาก่อนเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากมีคนดัดแปลงเว็บตูนเกาหลีเรื่อง "Mask Girl" ของ Meimi ตั้งแต่ปี 2015-2018 ให้กลายเป็นหนังตลกสีดำที่มีตัวละครมากมายและมีมุมมองที่คล้ายกันมากมาย ผู้กำกับ Kim Young-hoon ควรมีสิทธิ์ในภาพยนตร์เรื่องแรก มีทั้งหมด 7 ตอน ในตอนต้น แต่ละตอนถูกเล่าผ่านสายตาของตัวละครหนึ่งตัว เริ่มจากตัวเอก Kim Momi ที่อยากเป็นไอดอลแต่หน้าตาไม่สวย โชคดีที่เธอมีร่างกายที่ร้อน ดังนั้นฉันจึงปิดหน้าด้วยหน้ากากและถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ต ทำเงินและได้รับความนิยมอย่างมหาศาล จริง ๆ แล้วเธอมีทักษะที่ยอดเยี่ยมทั้งการเต้นและการร้องเพลงและสามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้ลำพังแค่หน้าตา ประชดประชันแบบตลก ๆ เกี่ยวกับความหมายของการเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ซ่อนความลับไว้ในโลกหลังหน้ากาก และในโลกที่ไม่มีหน้ากาก เธอก็แค่สาวออฟฟิศขี้เบื่อคนหนึ่ง แหล่งข่าวนี้เองที่ทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมสุดฮาในที่สุด



จากนั้นเราก็เห็นเรื่องราวเดียวกันจากตัวละครอื่น และสายตาของ Kim Mok ไม่ได้สังเกตตั้งแต่ต้น ให้คนดูรู้ว่ามีตัวละครอื่นอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์มากมาย เป็นการเปลี่ยนมุมมองการเล่าเรื่องได้อย่างสวยงาม เรื่องราวจะถูกเล่าผ่านสายตาของตัวละครอื่น ๆ โดยเล่นสลับกันไปประมาณ 2-3 ตอน ก่อนที่การเล่าเรื่องแบบเหลื่อมเวลาอันเข้มข้นจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งหลัง ต้องบอกว่าจนถึงตอนนี้ การปรับตัวของบทละครทำได้ค่อนข้างดี มันสามารถปกปิดจุดอ่อนที่ไม่ประจบประแจงของตัวละคร Kim Mimo จากการ์ตูนเว็บได้ ให้เราเฝ้าดูอย่างสมเพชเมื่อโชคชะตาเล่นตลกกับเธอแทนที่จะเป็นตัวเอง และเท่าที่ซีรีส์เริ่มต้นมา ต้องบอกว่าคนที่ไม่ชินกับหนังแนวนี้อาจจะงงนิดหน่อยว่ามันจะเป็นอารมณ์แบบไหน มืดมนทางจิต มีอารมณ์ขันพอเหมาะพอดี . แต่ถ้าใครชินกับแนวดาร์คคอมเมดี้จะตลกมาก

อ่านเพิ่มเติม : รีวิวหนัง





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้