รีวิวเกม Vampire the Masquerade Swansong



มาทำความรู้จักกับเกม Vampire the Masquerade Swansong


รีวิวเกม Vampire the Masquerade Swansong ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์แวมไพร์ซอมบี้ ครั้งนี้ ที่ไม่ธรรมดากว่าที่เคย ต่อสู้เมื่อผู้เล่นไม่หยิบอาวุธและทำให้เลือดกระเซ็น แต่คุณต้องใช้ "คารมคมคาย" ของคุณเพื่อแข่งขันและฟันศัตรูของคุณ สำหรับ Vampire Masquerade จะเป็นซีรีส์เกมเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของแวมไพร์ เผ่าพันธุ์ปีศาจ ที่ซ่อนตัวในตอนกลางคืน พวกมันผสมปนเปกันในหมู่มนุษย์มานับพันปีแล้ว พวกเขาพัฒนาในสังคมในลักษณะเฉพาะของตนเอง รวมถึงกฎและข้อบังคับที่เข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์รับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน "Swan Song" เป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ของ Camarilla Vampire Society ในบอสตัน ผู้เพิ่งมีเจ้าชายองค์ใหม่ให้ปกครองแต่พยายามแย่งชิงอำนาจและการฆาตกรรมลึกลับจะทำให้เกิดคำถามที่ผู้เล่นต้องหาคำตอบก่อนที่จะนำหายนะมาสู่แก๊งนักเดินทางยามค่ำคืน





เนื้อเรื่องของเกม Vampire the Masquerade Swansong


ผู้เล่นจะถูกบังคับให้เล่นบทบาทของตัวเอก มีตัวละครทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ Emem ผู้หญิงผิวคล้ำที่สามารถทำนายอนาคตได้ Leysha เด็กสาวล่องหนที่รวบรวมข้อมูลและชอบพูดคุยเกี่ยวกับชาวบ้าน และ Galeb สุภาพบุรุษเพียงคนเดียวในทีมที่สามารถมองเห็นเข้าไปข้างในได้ อนาคต. พวกเขาชอบใช้กำลังและความรุนแรง ตัวละคร 3 ตัวนี้ล้วนแต่เป็นแวมไพร์แต่อยู่คนละครอบครัวกัน เกมจะเฉลี่ยบทต่างๆ เพื่อให้เราผลัดกันเล่นแต่ละบทตามโอกาส แล้วเราจะตัดสินใจได้ว่าใครทำหรือไม่ทำอะไร เหมือนผู้กำกับหนังสั่งให้นักแสดงเล่นตามที่เราวางแผนไว้ แน่นอนว่าการตัดสินใจของตัวละครตัวหนึ่งย่อมส่งผลต่อการแสดงของตัวละครอีกตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำให้บทสรุปสุดท้ายแตกต่างออกไปคล้ายกับประสบการณ์ในเกมชื่อดังอย่าง Heavy Rain, Beyond: Two Souls หรือ Detroit: Become Human





ระบบเกมเพลย์ของเกม Vampire the Masquerade Swansong


เกมดังกล่าวเป็นเกมผจญภัยแนวสืบสวนที่ให้อิสระแก่ผู้เล่นในการสำรวจสภาพแวดล้อมภายในพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด จะมีตัวละคร NPC รอให้คำแนะนำและเบาะแสให้คุณตลอดทาง มีพยานหลายคนอยู่บนโต๊ะและบนพื้นเพื่อให้เราสำรวจและโต้ตอบด้วย ส่วนฉากแอ็กชั่นการต่อสู้ก็ดูไม่เน้นจนเกินไปและไม่ค่อยแสดงออกมากนัก เพราะอย่างที่บอกไป นี่คือเกมสืบสวนที่เน้นบทสนทนา ใช้คำพูดและคารมคมคายเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ ในเกมจะมีสถานการณ์ปกติสองสถานการณ์ให้เราเลือกบทสนทนาที่สะดวก ในบางกรณีเราต้องคิดให้รอบคอบและเลือกคำตอบให้รอบคอบเพราะจะส่งผลตามมาในภายหลัง ทางเลือกบางอย่างอาจต้องใช้ความเข้มแข็งในการโน้มน้าวผู้ฟังให้ทำในสิ่งที่เราต้องการทำ แต่หากพลังข้างต้นน้อยหรือไม่เพียงพอ เราอาจถูกเขาปฏิเสธและโต้กลับอย่างมึนงง ในบางกรณีหากเราแพ้อาจต้องใช้เวลาในการเจรจาใหม่ตั้งแต่ต้น





กราฟิกของเกม Vampire the Masquerade Swansong


ภาพกราฟิกของบรรยากาศยามค่ำคืน แสงสะท้อน ผนังอาคาร รายละเอียดเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ถือเป็นงานที่สวยงามที่สร้างขึ้นโดยใช้พลังของ Unreal Engine แต่นั่นหมายความว่าเมื่อเราสำรวจจะเน้นไปที่ฉาก เพราะทุกครั้งที่มุมกล้องสลับและซูมเข้าที่ใบหน้าของตัวละครในขณะที่พวกเขาพูดและเจรจากัน ก็เห็นได้ชัดเจนว่าน่าเกลียดขนาดไหน ตัวละครมีการแสดงออกที่นิ่งและเป็นหุ่นเชิดที่ไร้อารมณ์อย่างยิ่ง การเคลื่อนไหวแขนและขาดูขัดกับธรรมชาติ รูม่านตาสีดำจะจับจ้องอยู่ตรงกลางเสมอเมื่อพูดคุยกับใครก็ตาม ด้วยสายตาที่ตรงและแปลกประหลาด หรือแม้แต่การขยับปากประสานปากเองก็ไม่ตรงกับคำพูดที่พูดเลย ฉันพยายามที่จะเข้าใจว่าแวมไพร์เป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่มีอารมณ์ของมนุษย์ แต่ท่าทางของเขาแข็งทื่อราวกับกำลังดูการแสดงหุ่นเชิด ไม่มีทางที่จะทำความสะอาดได้จริงๆ


อ่านเพิ่มเติม : รีวิวเกมส์ใหม่




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้