รีวิวรถ TANK 500 Hybrid

มาทำความรู้จักกับรถ TANK 500 Hybrid

รีวิวรถ TANK 500 Hybrid หลังจากอวดโฉมเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยมานานหลายปี ในที่สุดการรอคอย Tank 500 Hybrid ก็สิ้นสุดลงแล้ว ในครั้งนี้ Great Wall Motors TANK 500 Hybrid SUV เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ซึ่งเป็นรุ่น SUV ระดับไฮเอนด์ การสร้างแพลตฟอร์มนี้บนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะให้ความยืดหยุ่นในระดับสูง รองรับระบบกันสะเทือนที่หลากหลายและความสามารถในการปรับขนาดเพื่อผลิตรถยนต์ขนาดต่างๆ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังสามารถรองรับระบบส่งกำลังได้สูงสุด 3 ระบบ ได้แก่ ICE, HEV และ PHEV รองรับทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 3.0 ลิตร แต่เหมาะกับรุ่นที่เปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทย จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 Hybrid และมีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่น คือ 500 Hybrid Pro (รุ่นเริ่มต้น) และ 500 Hybrid Ultra (รุ่นท็อป) วันนี้ AutoSpinn ได้มีโอกาสทดลองขับแล้ว เลยอยากจะใช้พื้นที่นี้บอกต่อกัน

ดีไซน์ภายนอกของรถ TANK 500 Hybrid

ด้านหน้ามีกระจังหน้าขนาดใหญ่โครเมียมสีเงิน โดดเด่นด้วยช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ซึ่งเข้ากันกับฮู้ดและเส้นสายที่ยกขึ้น ช่วยทำให้ดูแข็งแรง กล้องหน้าติดตั้งอยู่ตรงกลางกระจังหน้า ด้านหน้ามีเซ็นเซอร์ 6 ตัว และกล้องบนกระจกหน้ารถ โดยจะตรวจจับเส้นเลน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน คนเดินถนน และไฟ และทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยต่างๆ ของรถ ในส่วนของไฟหน้าจะใช้ไฟ LED อัจฉริยะที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมระบบอัจฉริยะ เช่น ระบบสวิตช์ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูงและต่ำอัตโนมัติพร้อมระบบเปิดไฟหน่วงเวลาหลังดับเครื่องยนต์ (ตามฉันกลับบ้าน) ไฟวิ่งกลางวัน และไฟตัดหมอก LED บันไดข้างไฟฟ้า ทุกครั้งที่เปิดประตู จะมีบันไดเลื่อนลงมา เมื่อปิดประตู บันไดข้างจะพับเก็บตามปกติ สามารถเปิดและปิดระบบได้โดยเข้าไปที่การตั้งค่าบนหน้าจอส่วนกลางของรถ แร็คหลังคา 

ดีไซน์ภายในของรถ TANK 500 Hybrid

เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้ามาพร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า, ระบบปรับดันหลังด้วยไฟฟ้า, ระบบระบายอากาศ และเบาะหนัง NAPPA เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบเบาะนั่งแบบ Memory Seat และระบบเบาะนั่งต้อนรับทำให้ง่ายต่อการขึ้นรถ และออกจากรถ เบาะนั่งด้านหน้าซ้ายปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง และตำแหน่งของเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับได้จากด้านคนขับผ่านปุ่ม พวงมาลัยปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัยพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมระบบเครื่องเสียงและสวิตช์สำหรับควบคุมการแสดงข้อมูลการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีก้านสำหรับปรับระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ และจอแสดงข้อมูลคนขับแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วจะแสดงภาพเสมือนจริงของยานพาหนะที่อยู่รอบๆ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ ถือเป็นหน้าจอที่สวยงามและทันสมัยมาก เมื่ออยู่ในตำแหน่งย้อนกลับหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นกล้องด้านหลัง ติดตั้งกล้อง 360 องศา ความละเอียดคมชัด โดยจะแสดงภาพรถของเราเป็นรถโมเดล สภาพแวดล้อมภายนอกจะเป็นภาพที่สมจริง คุณสามารถเลือกดูกล้องจากมุมต่างๆ ไฟตกแต่งห้องโดยสารพร้อมคุณสมบัติหลากสีช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารเป็นจังหวะ จับคู่กับชุดเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบนาฬิกาสุดคลาสสิก ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรูหราและมีสีเดียวกับแผงคอนโซลช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระด้านซ้ายและขวาพร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และระบบชาร์จมือถือไร้สาย ใช้งานง่าย เพียงวางโทรศัพท์มือถือออก แผงควบคุมที่คอนโซลกลางมีโหมดควบคุมการขับขี่ 11 โหมด

อ่านเพิ่มเติม : รีวิวรถ